ตัวอย่างวิธีทำสมาธิ
การทำสมาธิ หมายถึง การที่เราเพ่งจิตกำหนดรู้สภาวะใดสภาวะหนึ่งแล้วทำให้จิตใจมีความแน่วแน่
1.วิธีทำสมาธิแบบใช้คำบริกรรมสัมมาอะระหัง
เป็นวิธีที่กำหนดจิตกับคำบริกรรมจนเกิดสมาธิ โดยเริ่มนั่งโดยเอาเท้าขวาทับเท้าซ้ายมือขวาทับมือซ้าย
จุดหมุนมือนิ้วชี้ขวาจรดกับจุดหมุนมือนิ้วโป้งข้างซ้าย นั่งตัวตรง หลับตา
วิธีนั่งนี้สามารถนั่งสมาธิได้ทุกกรณ๊ แล้วบริกรรมอยู่ในใจด้วยคำบริกรรมของตน
จนจิตเกิดสมาธิ
2.วิธีทำสมาธิแบบอานาปานสติ
เป็นวิธีที่ใช้จิตกำหนดรู้ที่ลมหายใจเข้าออกของเราโดยที่หายใจเข้ารู้
หายใจออกรู้ ลมหายใจยาวรู้ ลมหายใจสั้นรู้ หรือแค่กำหนดรู้ว่าเข้าออก
โดยกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกจาก 3 ฐานคือ
1ปลายจมูกหรือริมฝีปาก
2อก
3.เหนือสะดือสองนิ้ว(ศูนย์กลางกาย)
โดยที่เราจะกำหนดที่จุดเดียวหรือหลายจุดก็ได้แล้วแต่อุปนิสัยของแต่ละบุคคล
โดยผู้ที่เริ่มปฏิบัตินั้นอาจจะกำหนดแค่ฐานเดียวก่อนพอเกิดวสี(ความชำนาญ)ในการทำสมาธินั้นสามารถกำหนดทั้งสามฐานได้
3. การทำสมาธิแบบยุบหนอพองหนอหรือกำหนดรู้อาการที่เรากระทำว่าหนอ
เป็นการทำสมาธิที่เรากำหนดจิตที่หน้าท้องตรงจุดสะดือโดยกำหนดรู้ว่าหน้าท้องพอง
บริกรรมในใจว่าพองหนอ พอหน้าท้องยุบบริกรรมว่ายุบหนอ
แต่บางท่านบริกรรมไม่ทันในคำว่าหนอนั้นก็สามารถบริกรรมแค่พอง และยุบก็ได้
อีกทั้งเรายังสามารถกำหนดรู้ในทุกอริยาบถได้ด้วยคำบริกรรมหนอตามหลังอริยบทที่เรากระทำอยู่
เช่น เดินหนอ นั่งหนอ นอนหนอ ได้ยินหนอ กินหนอ เป็นต้น
วิธีธรรมสมาธิแบบธรรมกาย
การทำสมาธิแบบธรรมกายนั้นต้องมีคำบริกรรมภาวนากับบริกรรมนิมิตบริการรมคู่กันไป
บริกรรมนิมิต ให้กำหนดเครื่องหมายเข้า
ดวงใสเหมือนกับเพชรลูกที่เจียระไน แล้ว ไม่มีขนแมว โตเท่าแก้วตา
บริกรรมภาวนา คือ
การบริกรรมคำอยู่ในใจว่า “สัมมาอะระหัง”
การบริกรรมนิมิตและภาวนาของธรรมกายจะบริกรรมภาวนาก่อนว่า
“สัมมาอะระหัง”แล้วตรึก(นึก)ถึงดวงใสหรือการบริกรรมนิตรนั่นเอง
กลางกั๊กคือตรงกลางไม่ค่อนไปทางใดทางหนึ่งเปรียบดังหน้าทะลุหลังขวาทะลุซ้ายแล้วตรงกลางที่ตัดกันเรียกว่ากลางกั๊ก
กำหนดฐานทั้ง 7
ฐานที่1อยู่ที่รูช่องจมูก
โดยผู้หญิงกำหนดนิมิตดวงใสประคองเข้าไปที่ช่องจมูกด้านซ้ายส่วนชายกำหนดเข้าทางด้านขวา
แล้วบริกรรมนิมิตและภาวนาตรงฐาน3รอบแล้วเลื่อนไปอีกฐานหนึ่ง
ฐานที่2อยู่ที่เพลาตาที่มูลตาไหลออกมา
หญิงเลื่อนนิมิตรเข้าช่องเพลาซ้ายส่วนชายนั้นเลื่อนเข้าทางขวาแล้วบริกรรมนิมิตรและภาวนา
3 สามรอบแล้วเลื่อนไปอีกฐานหนึ่ง
ฐานที่3อยู่กลางกั๊กศรีษะข้างในไม่ค่อนซ้ายหรือขวาแล้วบริกรรมนิมิตรและภาวนา
3 รอบแล้วเลื่อนไปอีกฐานหนึ่ง การเลื่อนนิมิตดวงใสไปฐานที่4นั้นมีลัทธิพิธีอยู่คือ
ต้องกลับตาไปข้างหลัง
ให้ตาค้างเหมือนคนชักจะตายแล้วเราหลับตาอยู่ช้อนขึ้นข้างบนเหลือกขึ้นข้างบนเหลือกไปๆจนค้างแน่นแล้วให้ความเห็นกลับไปข้างหลังแล้วค่อยๆให้เห็นกลับเข้าข้างในแล้วจึงเลื่อนนิมิตรดวงใสไปอีกฐานหนึ่ง
ฐานที่4อยู่ตรงที่ปากช่องเพดานที่เรารับประทานอาหารแล้วสำลัก
เลื่อนนิมิตรเข้ามาแล้วบริกรรมนิมิตรและภาวนา3รอบแล้วเลื่อนไปอีกฐานหนึ่ง
ฐานที่5อยู่ที่ปากช่องคอเหนือลูกกระเดือกเหมือนกลางกั๊กปากถ้อยแก้ว
โดยกำหนดนิมิตไปที่ฐานแล้วบริกรรมนิตรและภาวนาสามรอบแล้วจึงเลื่อนไปอีกฐานหนึ่ง
ฐานที่6อยู่ที่กลางตัว
สะดือทะละหลังขวาทะลุซ้ายกลางกั๊กข้างใน
แล้วบริกรรมนิมิตรและภาวนา3รอบแล้วเลื่อนไปอีกฐานหนึ่ง
ฐานที่7อยู่ที่ศูนย์กลางกลางพอดี
โดยเลื่อนจากฐานที่6สูงขึ้นมา 2 นิ้วแล้วบริกรรมนิมิตรและภาวนา3รอบ นิ่งตรงจุดนี้จนกว่านิมิตจะเกิด
เราสามารถใช้วิธีนี้ได้ทั้งนั่ง นอน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น